







วันที่ 22 ธันวาคม 2565 ที่ หมู่บ้านมโนมัย หมู่ 2 ตำบลหนองปลาไหล อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี มีประชาชน หญิง-ชาย วัยหนุ่มสาว-กลางคน ราว 50-60 คน พากันมารวมตัวที่บริเวณด้านหน้าร้านทอง “เฟื่อง โกลด์ ดัง”ออมทอง ขายทองออนไลน์ ซึ่งปลูกเป็นอาคารชั้นเดียวติดกัน 5 ห้อง ติดกันมีการก่อสร้างเป็นคาเฟ่ ภายในตกแต่งหรูหราลักษณะเหมือนร้านจำหน่ายทองคำ หรือเพชรพลอย แต่ประตูกระจกด้านหน้าปิดล็อกไม่มีผู้ใดอยู่เฝ้าร้านแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามกลุ่มคนดังกล่าว ต่างพยามเลี่ยงที่จะตอบคำถามทราบเพียงว่า พวกตนที่มากันในวันนี้ ต่างมาจากจังหวัดอื่นๆ เช่น จังหวัดสระแก้ว, พระนครศรีอยุธยา ฯลฯ เพราะทางร้านทอง ได้นัดให้มาเจรจากันเรื่องผลประโยชน์จากการติดต่อซื้อขายทองคำ และออมทองคำ ระหว่างกัน ซึ่งที่ผ่านมาทางร้านขาดการติดต่อกับลูกค้าไปหลายวันแล้ว ครั้นเมื่อมาถึงตามที่นัดหมายกันไว้กับพบแต่ความว่างเปล่า (ร้านปิด) และได้ทราบมาว่าก่อนหน้า วานนี้ ( 21 ธันวาคม 2565) ได้มีกลุ่มผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำกับทางร้าน “เฟื่อง โกลด์ ดังออมทอง” บางคนที่ไม่ได้รับเงินปันผลตามนัดได้พากันเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระบุรีไว้บ้างแล้ว ส่วนพวกตนที่ทางร้านนัดให้มาพบในวันนี้ ( 22 ธันวาคม2565) กลับไม่ได้พบผู้ใดตามที่แจ้งไว้ จึงตกลงกันว่าจะพากันเดินทางเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์กับ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ ให้ช่วยเหลือ




ทางด้านนายวิชัย (นามสมมติ) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย และเป็นเครือข่ายร้านทอง เผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ที่พวกตนรวมตัวกันมาเนื่องจากมีการนัดเจรจาตกลง กับเจ้าของร้านออมทอง เนื่องจากมีการนัดตกลงว่าจะจ่ายเงินคืนกันในวันนี้ ที่ร้านนี้ ซึ่งในกลุ่มของตนโดยมีผู้เสียหายประมาณ 5 ล้านบาท ในส่วนของตนได้ลงออมไปเป็นเงิน 200,000 บาท ซึ่งการที่ตนมีเครือข่ายก็จะได้รายได้จากยอดบิล จะได้ 100-200 ต่อบิล ด้าน พ.ต.อ.เชษฐชัย เชษฐศิริ ผกก.สภ.เมืองสระบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ภายหลังเรียกประชุมพนักงานสอบสวน ว่า ขณะนี้ สภ.เมืองสระบุรี ได้จัดเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เสียหายในกรณีเข้าข่าย “แชร์ลูกโซ่”ที่ได้มาแจ้งความร้องทุกข์แล้วจำนวนมาก โดยในชั้นตอนแรก จัดตั้งโต๊ะประชาสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่ประจำวัน สิบเวร ร้อยเวร ที่อยู่เวรปกติเพื่อรองรับประชาชน และจะทำไลน์กลุ่มให้ผู้ให้สำหรับผู้ที่มารับแจ้งความเพื่อประสานข้อมูลกันระหว่างทีมงานตำรวจกับผู้เสียหาย จากนั้นจะมีคิวอาร์โค๊ตให้ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์จะนำผู้เสียหายไปพบพนักงานสอบสวนที่ ชั้น 4 ห้องประชุมใหญ่ ซึ่งจัดเป็น 2 ส่วนไว้รองรับ โซนที่ 1 ไว้รองรับประชาชนที่มานั่งพัก จัดพนักงานสอบสวนที่มีความชำนาญอาชญากรรมทางเทคโนโลยี่ เข้าประกบเพื่อสอนวิธีการลงข้อมูลออนไลน์ เสร็จจากขั้นตอนนี้เข้าไปในห้องประชุมให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำ สอบปากคำเสร็จจะมีทีมงานพามาลงบันทึกประจำวัน เสร็จแล้วจะมีการแค็บหน้าจอเลข โค๊ต ไอดีต่างๆเพื่อนำมารวมไว้เป็นข้อมูลของโรงพักด้วยเพื่อประสานงานกัน สำหรับพฤติการณ์ของคดี พ.ต.อ.เชษฐชัย กล่าวเสริมว่า มาจากเป็นการรู้จักกันเป็นการส่วนตัวกันมาก่อน แล้วบอกต่อๆกันแล้วมีการลงเพจ ให้มีการ “ออมทอง” ทอง 1 บาท โอนให้ 4 เดือน ๆละ 2,500 บาทเศษ ครบ 4 เดือนจะเป็นเงินประมาณ 23,000 บาท ใครโอนครบจะได้ ทอง 1 บาท พร้อมโบนัสอีกครึ่งสลึงแรกๆก็ทำได้ พอลูกข่ายนำเงินมาเยอะๆก็มีสาย เยอะขึ้นเรื่อยๆ แรกๆก็ได้ผลตอบแทนมาโดยตลอด พอนานไป นานไปเริ่มช้าติดขัดทำให้ทุกคนสงสัย เริ่มกลัวจึงมาแจ้งความ และวันนี้ เป็นวันนัด ที่เจ้าของร้านทองนัดจะเคลียร์ทั้งหมด แต่ปรากฏว่า เมื่อไปแล้ว “ปิดร้าน” ผู้เสียหายจึงพากันไปที่กองปราบ การแจ้งความในคดีความผิดทางเทคโนโลยี่ ท่าน ผบ.ตร. ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.วิชิต บุญวิชิตกุล ผบก.ภ.จว.สระบุรี ได้กำชับมา ว่าความผิดทางเทคโนโลยี่นี้ ผู้เสียหายสามารถแจ้งความได้ทุกที่ ที่ผู้เสียหายสะดวก แล้วตำรวจก็จะสอบปากคำแล้วจะรวบรวมส่งไปที่ สอท.ก็จะดำเนินการทางคดีให้




ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้เสียหายที่มาแจ้งความส่วนใหญ่จะเป็น “หัวหน้าสาย”ใช่หรือไม่ พ.ต.อ.เชษฐ์ชัย ตอบว่า ส่วนใหญ่ก็จะเป็นหัวหน้าสายเองทั้งหมดนั่นแหละ ยกตัวอย่างทุกที่เป็นลูกค้าคนอยากได้ค่าคอมมิชชั่น จึงไปหาลูกทีมต่อ ก็จะแตกออกไปเรื่อยๆ ลักษณะเข้าข่าย”แชร์ลูกโซ่”
ส่วนกระแสข่าวที่ว่า มีการนำมิสแกรนด์สระบุรีเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พ.ต.อ.เชษฐ์ชัย ตอบว่า เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องโปรโมทมากว่า แต่เรื่องนี้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรตนไม่ทราบ เห็นแต่เขาว่ากัน
มูลค่าความเสียหายขณะนี้ ยังไม่ทราบจำนวนมากพอสมควร ที่เกิดผู้เสียหายอยู่ในหลายพื้นที่ บางคน หลักแสน บางคน หลักล้าน และจำนวนผู้เสียหาย คาดว่าเยอะ น่าจะหลัก “ร้อยล้าน” พ.ต.อ.เชษฐ์ชัย ระบุ
ผกก.สภ.เมืองสระบุรี ฝากเตือน ถึงกระบวนการหลอกลวง ขอให้ดูเยอะว่า การหลอกลวงมีหลายรูปแบบ ดูความจริงก่อนว่าราคาสิ่งของมูลค่าเท่าไหร่ แล้วผลตอบแทนได้เท่าไหร่ ซึ่งความจริงมันเป็นไปไม่ได้ ขอให้ไต่ตรองกันให้ดี และจากแหล่งข่าว จากเจ้าของสำนักงานทนายความแห่งหนึ่ง ใน กทม. ซึ่งมีผู้เสียหายบางรายติดต่อให้ดำเนินการทางคดีให้ แจ้งว่า เจ้าของร้านทอง “เฟื่อง โกลด์ ดัง ออมทอง ขายทองออนไลน์” เป็นหญิงสาวชื่อ วรรศมน ทองเขียว อายุประมาณ 20 ปีเศษ ทราบว่ากิจการของร้านทองดังกล่าวเติบโตรวดเร็วมาก เพราะมีการนำมิสแกรนด์สระบุรีร่วมโปรโมท จัดโปรโมชั่นล่อใจต่างๆ อยู่ตลอด ปัจจุบันมีลูกค้าราว 1,500-2,000 ราย มูลค่ามีผู้เสียหานประมาณ 500- 700 ล้านบาทเลยทีเดียว.