วันที่ 14 ก.ย. 65 จากกรณีเมื่อวันที่ 13 ก.ย.65 เวลา 10.30 น.พ.ต.ท. สามิตต์ โคยะทา สภ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ได้รับแจ้งจากเจ้าของร้านทอง ป.อุดมสุข ตั้งอยู่ ตลาดท่าลาน ริมถนนห้วยบง-ท่าลาน 285/13 หมู่8 ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ว่าถูกคนร้ายได้ฉกแหวนทองคำหนัก 1 สลึง ขณะมาเลือกซื้อแหวนฉวยโอกาสวิ่งหนีออกจากร้านขี่ จยย.หลบหนีมุ่งหน้าไปทาง ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา จึงประสานตำรวจสายตรวจ และตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านหมอ เข้าตรวจสอบเร่งสกัดคนร้ายคนดังกล่าว ในที่เกิดเหตุพบร้านทองเป็นตกแถว 2 ชั้น คูหาเดียว มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบรายละเอียดและสอบสวนเจ้าของร้านหาข้อมูลคนร้าย และตรวจสอบกล้องวงงจรปิดภายในร้านทองและใกล้เคียง พบกล้องวงจรปิดภายในร้านทองจับภาพคนร้ายคนชายอายุประมาณ 25-30 ปี ผิวคว้ำ ใส่เสื้อเชิตแขนยาวสี เทา กางเกงยีนส์ขาสั้น ขี่รถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีขาว-ส้ม เข้ามาขอซื้อแหวนทองคำ1 สลึง สักพักก็ฉกแหวนทองหลบหนี้วิ่งมาที่ รถ จยย.ที่จอดไว้อยู่ริมถนนแล้วขี่หลบหนีไป ทางด้าน นาง นันทวัน เปี่ยมเขียว อายุ 72 ปี เจ้าของร้านทอง เล่าว่า ช่วงเวลาประมาณ 10.10 น.คนร้ายทำทีมาซื้อแหวนทองคำหนัก 1 สลึง เพื่อจะนำแหวนทองคำเป็นของขวัญให้แฟนสาวในวันเกิด จากนั้นก็เลือกแบบ โดยตกลงราคาที่ 8,100 บาท จากนั้นคนร้ายได้ขอตัวไปกดเงินก่อน จากนั้นได้ออกไปได้ประมาณ 5 นาที คนร้ายได้กลับเข้ามาใหม่ ซึ่งเป็นช่วงที่ทางร้านไม่มีคนจากนั้นคนร้ายได้คว้าทองที่ใส่กล่องไว้แล้วได้ ก็วิ่งหนีออกไป ซึ่งน้ำหนักทองหนัก 1 สลึง ราคา 8,100 บาทซึ่งจากดูอาการของคนร้ายมีอาการลุกล่น หันซ้ายมองขวา ซึ่งทางร้านก็ไม่เคยมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น จึงไม่ได้คิดหวาดระแวง หรือระวังใคร มีเพียงแต่ว่าหยิบของไปก็ส่งเงินมา นี่เล่นหยิบของไปแล้วก็วิ่งออกไปเลย ซึ่งคนร้ายขี่จักยานยนต์ CPX สีขาว-ส้ม เข้ามา รูปร่างสันทัด อายุประมาณ 20 – 30 ปี ตนได้เรียกให้เพื่อนบ้านช่วยแต่คนร้ายได้ขับรถหนีออกไปแล้ว ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านหมอ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดสระบุรี ได้กระจายกำลังติดตามตัวคนร้ายอย่างกระชันชิดและเร่งไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่คิดว่าคนร้ายขี่ รถ จยย.ผ่านเพื่อหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นคนในพื้นที่และใกล้เคียงอย่างแน่นอน ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูตรหลักฐานจ.สระบุรี ได้เข้าเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุแล้ว
ล่าสุดช่วงค่ำผ่านมาผู้ต้องหาวิ่งราวทรัพย์แหวนทองคำ 1 สลึง จากร้านทอง ป.อุดมสุข ตั้งอยู่ ตลาดท่าลาน ได้ให้แฟนสาวโทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอเข้ามอบตัวโดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านหมอและเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดสระบุรี เดินทางไปรับตัวที่บ้านแฟนสาวที่ตำบลเขาวง อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ต่อมาทราบ ชื่อนาย บัญฑิต อายุ 25 ปี (ผู้ต้องหา)ซึ่งนายบัญฑิต ได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเอาของกลางแหวนทองคำ 1 สลึง ที่นำไปขายในร้านทองแห่งหนึ่งใน ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ขาย ได้เงินมา 6,000 บาท นายบัญฑิต อ้างว่าก่อเหตุเพราะประชดภรรยาที่บอกเลิก ส่วน นส.จันทร์จิรา อายุ 25 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ก่อนหน้านั้นหนูมีปัญหากับเค้า( ผู้ต้องหาซึ่งเป็นสามี ) คือทะเลาะกันแล้วเมื่อไม่กี่วันก็โทรมาง้อขอคืนดี ตนเอง คิดอย่างเดียวว่าจะเลิก ตนยืนยันจะเลิกเพราะว่าอยู่ด้วยกันมีปัญหากันบ่อยมาก ซึ่งตนเองก็ไปทำงานทุกวัน จนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สามีโทรมาหาตนเองอีกครั้ง เพื่อจะขอคืนดีโดยกล่าวว่า จะซื้อของมาให้โดยที่ตนเองไม่รู้ว่าจะเป็นแหวนทองคำที่สามีไปก่อเหตุมาหรือเปล่า แต่ตนเองยืนยันว่าจะเลิกอย่างแน่นอนและยังมีเรื่องการเสพยาอีก จากนั้นผู้สื่อข่าวสอบถาม สามีทำงานอะไร นส.จันทร์จิรา กล่าวว่า ตนเองให้สามีอยู่บ้าน รับจ้างทั่วไป ตนเองไม่รู้นะว่าสามีตนเอง จะนำแหวนทองมาให้ แต่ตนเองก็ปฏิเสธไปหลังจากสามีโทรมาง้อคืนดี ตนเองไม่รู้เลยน่ะว่าสามีตนเองไปก่อเหตุวิ่งราวแหวนทอง จนเขาส่งแชทข้อความมาจึงรู้เรื่อง ตนเองไม่รู้เรื่องอะไรในการก่อเหตุในครั้งนี้เลยตนก็ช่วยกล่อมให้เขามอบตัวกับตำรวจ ด้าน พันตำรวจเอก ไกรสร ศรีอำพร ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี กล่าวว่า หลังก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปอยู่ที่บ้าน แล้วได้ทำการโทรไปหาภรรยาเขา พูดจาและอธิบายให้ภรรยาตนเองว่าตนเองไม่มีเจตนาในการก่อเหตุในครั้งนี้ แต่ทำไปเพราะว่าประชดภรรยา จากนั้นหลังพูดคุยกับภรรยาและทำความเข้าใจกันเรียบร้อย แล้วก็ขอมอบตัวโดยประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดสระบุรี ชุดสืบสวน สภ.บ้านหมอให้ไปรับตัวที่บ้านภรรยา ตำบลเขาวง อ.พระพุทธบาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจไปไปรับตัวนาย บัญฑิต อายุ 25 ปี ผู้ก่อเหตุ แล้วก็พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปยังร้านทอง ที่ ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ ผู้ก่อเหตุนำแหวนทองไปขายในราคา 6,000 บาท แล้วก็นำเงินไปไถ่ถอนโทรศัพท์ ที่จำนำไว้ออกมา เหตุผลหลักในการก่อเหตุ แค่ทำประชดเมียเฉย ๆ ทางด้านผู้ก่อเหตุ หลังมอบตัว ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จากนั้นก็ได้ติดต่อทางแม่ของผู้ก่อเหตุ ได้นำเงินไปไถ่แหวนทองออกมา เพื่อนำแหวนทอง 1 สลึงที่นำไปขาย นำมาคืนร้านทอง ป. อุดมสุข ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตั้งข้อวิ่งราวทรัพย์ เพราะว่าไม่มีอาวุธในการก่อเหตุ และไม่ได้ทำร้ายร่างกายเจ้าของร้านทองแต่อย่างไร สาเหตุในการก่อเหตุ เนื่องจากการประชดภรรยาเนื่องจากมีปัญหากันมาตลอด หลังก่อเหตุ พูดคุยกันจนเข้าใจ จนมาสู้การมอบตัวโดยที่ภรรยาของผู้ก่อเหตุประสานมาให้มอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ .
CR.วัฒนา เอี่ยมสำอางค์ ch 7.
