


วันที่ 22 ต.ค.64 จากกรณีที่เมื่อวันที่ 19 ต.ค.64 เวลา 21.30 น.นาย สมเพ็ญ (เปี๊ยก) ปุณณรัตนกุล อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 24/5 ถ.พิชัยฯ 19 ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี ถูกยิงเสียชีวิตอยู่บนถนนภายในซอย ในสภาพนอนตะแคงคว่ำหน้าด้านซ้าย สวมกางเกงกีฬา เสื้อยืดสีฟ้าด้านหลังมีหมายเลข 9 มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม. เข้าที่ อกซ้าย อกขวา ไหปลาร้าขวา ท้อง แขนซ้าย แลขาทั้ง 2 ข้าง ใกล้ศพพบปลอกกระสุนตกกระจายเกลื่อนถนน จำนวน 14 ปลอก โดยไม่ทราบมูลเหตุ



วันนี้ พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.สระบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.เชษฐชัย เชษฐศิริ ผกก.สภ.เมืองสระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนเมืองสระบุรี ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมมือปืนยิง นาย สมเพ็ญ หรือเปี๊ยก ปุณณรัตนกุล อายุ 58 ปี ทราบคนร้ายคือ ร.ต.วิเชียร เข็มกลัด อายุ 71 ปี อดีตทหารข้าราชการบำนาญ (เกษียณแล้ว) ที่บ้านเลขที่ 26 ซอยพิชัยรณรงค์สงคราม 19 ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกับผู้ตาย จากการที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่เฝ้าติดตามคนร้ายได้ พบพิรุจผิดสังเกตจาก บ้านใกล้เคียงที่พบศพ ทั้งที่ มีเจ้าหน้าที่และประชาชนให้ความสนใจ แต่บ้านดังกล่าวยังคงปิดไฟมืดสนิท ไม่ได้ความสนจนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและชุดสืบได้เขาพูดคุย กับ ร.ต.วิเชียรได้ให้การพูดคุย โดยกล่าวอ้างว่า คาดว่าคนร้ายน่าจะจอดรถไว้ปากซอย แล้วมีบุคคลที่คาดว่าเป็นคนร้ายมาเดินป่วนเปี่ยนในบริเวณดังกล่าว จึงเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจกล้องวงจรปิดไม่พบมีรถยนต์มาจอดในวันเวลาที่กล่าวอ้าง สืบสวนเชิงลึก จนทราบว่า ผู้ตาย เคยมีปัญหากับ ร.ต.วิเชียร มานานแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้เชิญตัว ร.ต.วิเชียร เข้ามาสอบสวนยัง สภ.เมืองสระบุรี ซึ่งเบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ และเมื่อเจ้าหน้าเค้นสอบ จนผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่า ตนเองเป็นคนลงมือยิง นาย สมเพ็ญ จริง เนื่องจากมีปัญหากัน และผู้ตายเวลาเดินผ่านหน้าบ้านชอบด่าด้วยคำหยาบคายมานานแล้ว ด้วยความเก็บกด วันเกิดเหตุ ผู้ตายเดินอยู่ จึงเอาปืนมายิงเสียชีวิต ก่อนลากศพออกให้พ้นบริเวณหน้าบ้าน จากนั้นได้นำอาวุธปืน ขนาด 11 มม.ไปซ่อนไว้ในถังข้าวสารภายในบ้าน ภายหลัง เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดเป็นหลักฐาน หลังนำตัวไปพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ตรวจเขม่าดินปืน ทางด้านเจ้าหน้าที่ตรวจได้แจ้งข้อหา ร.ต.วิเชียร เข็มกลัด ในข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา จากการสอบถาม ร.ต.วิเชียร เข็มกลัด นนส.ทบ.รุ่น 1 อดีตทหารม้า เคยไปราชการพิเศษ เป็นทหารพราน เกษียณอายุราชการ สังกัด มทบ.18 เล่าว่า สาเหตุที่ยิง นายเปี๊ยก เกิดจากตนเองถูกด่ามานานนับปี ซึ่งเวลาที่มีคนอยู่มักจะชอบด่า แต่ถ้าไม่มีคนอยู่จะไม่ด่า ซึ่งขนาดตนเองยิงไปแล้วยังด่าแม่ตนเองอีกว่า มึงทำกูทำไม ซึ่งตนเองคิดว่าไหนๆ ยิงแล้วก็ยิงให้มันตายไปเลย ซึ่งสวนตัวเองแล้วไม่เคยฆ่าคนมาก่อน โดยกล่าวว่าผู้ตายเป็นคนนิสัยใช้ไม่ได้ ลูกหลานตนเอง ใครแถวบ้านจะชวนขึ้นรถหมด ซึ่งจริงๆแล้ว เนื่องจากตนเก็บบัตร เอทีเอ็ม ของครูข้างบ้านได้ ตนได้ตามหาเจ้าของจนเจอ และได้นำไปคืน ตั้งแต่นั้นมาครูคนนั้นก็เข้ามาคุยด้วยว่าลุงพูดจาเพราะดี และเมื่อไปไหนมามักจะมีของฝากมาให้ตน ก็มีพูดจาพูดคุยเล่นกันบ้าง ซึ่งเมื่อผู้ตายเห็นเข้าหลายๆ ครั้งคิดว่าตนเองจะมีอะไรกับครูดังกล่าว ซึ่งครูคนนี้ไม่มีสามี และเป็นเพื่อนสนิทกับผู้ตาย ซึ่งตนก็อายุมากแล้วไม่คิดอะไรแล้ว ซึ่งตนเองจะถูกผู้ตายด่าด้วยคำหยาบคาย ทำทีถุยน้ำลายใส่อยู่บ่อยๆ ตลอด ซึ่งครั้งสุดท้าย ถุยน้ำลายใส่ตนเองซึ่งนั่งอยู่ในบ้านเกือบโดนตน ซึ่งตนเลยถามว่าด่าใคร ถุยน้ำลายใส่ใคร ผู้ตายตอบกลับว่า กูก็ถุยใส่มึง จากนั้นก็เดินหนีไป ซึ่งตนเก็บกดมา 2 ปีกว่า ก็ไม่เคยเล่าให้ใครฟังกลับถูกผู้ตาย ทำบ่อยๆ ขึ้น ซึ่งในวันเกิดเหตุสบโอกาสคิดว่าไม่มีใครเห็น เห็นผู้ตายเดินไปเดินมาอยู่ ตนจึงคิดว่าถ้าเดินมาอีกรอบแล้วด่าอีกจะยิงแม่งเลย สุดท้ายก็ถูกด่าจริงๆ ตนจึงได้เดินเข้าไปหยิบปืนในบ้านออกมายิง ซึ่งขนาดตนเองยิงผู้ตายยังถูกผู้ตายด่าอยู่อีก ก็เลยยิงหมดแม็ก และกลับเข้าบ้านใส่แม็กกระสุนปืนใหม่ยิงไปอีกแม็ก ซึ่งทีแรกกะว่าจะสั่งสอนยิงแค่ขา ก็เลยยิงจนหมดทั้ง 2 แม็ก ซึ่งตนเองไม่เคยฆ่าใครมาก่อน.

