



วันที่ 21 ต.ค.64 จากกรณี พ่อเลี้ยงโหดดื่มสุราจนเมา แล้วจับเด็กชายวัย 8 ปี ที่เป็นลูกเลี้ยง มัดด้วย เคเบิ้ลไทน์ และโยงด้วยสายไฟไว้กับขื่อบ้าน และเฆี่ยนตีด้วยสายไฟหลายครั้ง แล้วปล่อยทิ้งทั้งคืน พอตื่นขึ้นมาเห็นเด็กยืนหลับกลับบังคับให้ปัสสาวะใส่ขวดและบังคับดื่ม จากนั้นใช้เท้าเตะจนแน่นิ่งไป ตกใจรีบนำส่ง รพ.แต่เด็กชายเสียชีวิตก่อน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ ทาวเฮาส์ชั้นเดียวอยู่ภายในหมู่บ้านในเขตเทศบาล ต.หนองแค จังหวัดสระบุรี เกิดเหตุเวลา 20.00 น.วันที่ 19 ต.ค.64ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ ตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ บก.ทล.ว่ามีผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าคนตาย ขับขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้าลงใต้ สว.ส.ทล.3 จึงได้สั่งการให้ออกตรวจสอบและสังเกตการณ์บนถนนเพชรเกษม หมายเลข 4 บริเวณ กม.281 ขาล่องใต้ กระทั่งเวลาประมาณ 17.30 จึงพบรถจักรยายนต์ต้องสงสัยตามที่ได้รับเเจ้ง ก่อนเรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบ พบว่า นายวิรัช เป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าชุดจับกุมจึงได้เเสดงหมายจับของศาลจังหวัดสระบุรีให้ดู แลควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองแค เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป คืบน้าเช้าวันนี้ เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พ.ต.อ.สถิตย์ สังข์ประไพ ผกก.สภ.หนองแค และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวนกว่า 20 นาย ได้ควบคุมตัวนาย วิรัช แซ่เฮ้ง อายุ 31ปี ออกจาห้องขัง สภ.หนองแค เพื่อไปทำแผน โดยนายวิรัช สวมเสื้อเกราะ และหมวกกันน็อกเต็มใบ ไปยังบ้านที่เกิดเหตุ เลขที่ 6/18 ซอยเทศบาล 5 ต.หนองแค อ.หนองแค จ.สระบุรี ซึ่งนายวิรัชไม่ยอมตอบคำถามหรือพูดคุยกับผู้สื่อข่าวใดๆ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวไปภายในบ้านที่เกิดเหตุพร้อมปิดประตูไม่ยอมผู้สื่อข่าวเข้าไป ซึ่งมีชาวบ้านเข้ามายืนดูทำแผนกันเป็นจำนวนมาก ขณะนั้นได้มี นาง อาภา เกิดพระ อายุ 51 ปี ที่มารอดูการทำแผน ได้ตะโกนด่า และร้องให้ คร่ำครวญอย่างน่าเวทนา ผ่านไปประมาณ 30 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจทำแผนเสร็จ จะนำตัวนายวิรัช กลับ เมื่อเปิดประตูเพื่อนำตัวนาย วิรัช ไปขึ้นรถ ได้มีชาวบ้านเข้ารุมประชาทัณฑ์ กันเป็นจำนวนมาก โดยได้ขว้างสิ่งของ และเช้าทุบตีชกต่อย พร้อมตะโกนด่าสาปแช่ง ด้วยคำหยาบคาย ต่างๆนาๆ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าคุมกันโดนลูกหลงเจ็บไปตามกัน โดยเฉพาะ พ.ต.อ.สถิตย์ สังข์ประไพผกก.สภ.หนองแค บอกโดยไปหลายดอก เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหากลับเข้าไปในบ้านอย่างเดิม จากนั้นได้นำรถตู้เข้ามารับผู้ต้องหาหน้าประตูบ้าน โดยมีเจ้าหน้าที่คุ้มกันอย่างแน่นหนา นำผู้ต้องหาออกไป ควบคุมยัง สภ.หนองแค โดยมีชาวบ้านตะโกนด่า สาปแช่ง ทั้งผู้ต้องหา และตัวนาง ยุวดี แม่ของเด็กชายวัย 8 ขวบตลอดเวลา





ทางด้าน นาง ยุวดี อรรคทัย แม่ของเด็กชาย ธนันชัย อรรคทัย วัย 8 ขวบ เผยว่า ตนเองรู้สึกเสียใจมาก ซึ่งไม่มีใครรับรู้ได้ ซึ่งอุปนิสัย ของนายวิรัช ที่อยู่กับตนไม่เคยด่าว่าตน เป็นคนพูดจาดี ซึ่งตนเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาต้องทำลูกตนถึงขนาดนั้น ตนไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร กับลูกของตนจะมีการดุด่าว่ากันตลอด เนื่องถามอะไรไม่ยอมตอบ และไม่ค่อยอ่านหนังสือ แลเมื่อถามย้ำไปมา เด็กไม่ตอบ นายวิรัช ก็จะเกิดอาการโมโห ซึ่งนายวิรัชเป็นคนที่ชอบหงุดหงิด ส่วนความรู้สึกของตนที่สูญเสียลูก ก็ขอให้เขาชดใช้กรรมที่เขาทำขึ้นมา ส่วนตนเองพร้อมกับลูกสาว วัย 16 ปี ก็จะต้องย้ายออกจากบ้านที่อยู่ แลไปหาที่อยู่ใหม่กัน 2 คน ส่วนถ้าย้อนกลับไปได้ ตนก็จะไม่ให้ นาย วิรัช มาทำกับลูกของตนอย่างนี้ และเมื่อถามว่าเมื่อวัน เกิดเหตุ ทำไมตนเองไม่ปกป้องลูกเลย ซึ่ง นาง ยุวดี ไม่ขอตอบ ตอนนี้มีแต่คนพูดว่าตนเองอย่างเสียหายอยู่มาก ซึ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถ้าเป็นไปได้ตนเองก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาตนเองไม่เคยถูกนาย วิรัช ทำร้ายเลย มีแต่ทำร้าย ลูกชายของตน
ทางด้าน นางสาว โชธิตา อรรคทัย อายุ 16 ปี(ลูกสาว) ได้พาผู้สื่อข่าวเข้าไปดูที่เกิดเหตุ โดยชี้ดูว่า น้องถูกมัดมือแขวนกับหน้าต่างบ้าน แขวนกับตะปูในห้องน้ำ และแขวนกับตะปูที่กำแพงห้องนอน โดยการแขวนคอน้อง แล้วปล่อยน้องทิ้งลง มา ซึ่งตนเองเห็นอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่กล้าบอกหรือเล่าใครฟัง นางสาว โชธิตา เล่าต่อว่า น้องโดนทำแบบนี้หลายครั้งแล้ว ตั้งแต่น้องมาอยู่กับแม่น้องโดนตลอด ก่อนที่จะไปหายายเขาไม่ได้ทำ ตนเห็นทุกครั้งที่น้องโดนพ่อเลี้ยงทำ เคยร้องขอแล้วแต่เขาก็ไม่เชื่อ ตนก็ไม่กล้าบอกแม่กับยายเพราะก็กลัวเหมือนกัน พ่อเลี้ยงเคยกอดเคยหอมแก้มตน ทำมา 2 ครั้งแล้ว แม่พึ่งมารู้เรื่องเมื่อวาน เพราะตนไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใคร เขาจะทำกับตนเวลาไม่มีใครอยู่บ้าน และตอนแม่ไปทำงานช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. เขาบอกว่า อยากให้ตนเรียกว่าพ่อแล้วเขาก็กอดและหอมแก้มตน แต่ไม่เคยล่วงละเมิดทาง เพศ ส่วนตนก็รู้สึกแปลกๆ อยู่เหมือนกัน ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณ โหดร้าย, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่ ทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ หรือโดยจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำกานั้นไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น, หน่วงเหนี่ยวหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังนั้นถึงแก่ความตาย กระทำการอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจของเด็ก (ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.๒๕๔๖)


