สระบุรี – เจ้าหน้าที่รพ.ตกใจ เจอใบสั่ง 4 ใบรวด น่าจะโดนสวมทะเบียน
วันที่ 25 พ.ค.63. นาย สุชน สิงห์เหนี่ยว เลขา ผอ.รพ.สระบุรี พร้อมด้วย นาง ชนิภา วงษ์ภักดี อายุ 43 ปี เจ้าหน้าที่รพ.สระบุรี ได้ถือใบสั่ง มาร้องสื่อและเตือนภัย


จากกรณที่ นางชนิภา วงษ์ภักดี พักอาศัยอยู่ บ้านเลขที่ 201/5 ถ.เทศบาล 4 ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี ได้รับจดหมาย เมื่อวานวันที่ 24 ส.ค.63.จาก สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ถ. หลวงแพ่ง ทับยาว ลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ใส่ตู้จดหมายไว้ จึงได้เปิดดูตกใจ พบ เป็นใบสั่ง จำนวน 4 ใบ ในข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กดหมายกำหนด เกิดเหตุที่ ถนนมอเตอร์เวย์ สาย 7 กมที่ 2 ซึ่งรถในใบสั่งดังกล่าวคล้ายกับรถของตนเองยิ่งกว่าฝาแฝด


ยี่ห้อ มาสด้า3 สีเทา ทะเบียน 3กธ4473 กรุงเทพมหานคร ตนกลัวว่าสามีจะด่า ว่า ขับรถไปเที่ยวไหนมา เพราะรถเป็นชื่อของสามี แต่ตนเองเป็นคนใช้ จึงรีบตรวจสอบรถในใบสั่ง พบว่ารถคันดังกล่าวไม่ตรงกับรถของตน เพราะว่ารถคันดังกล่าวมีปุ่มจุดไฟถอยหลัง แต่รถของตนไม่มี และรถของตนขอบป้ายทะเบียน มีตัวหนังสือสีฟ้า เขียนว่า มาสด้า สกาย แอคทีฟ แต่รถคันดังกล่าวไม่มี เพราะว่าตนเองไม่เคยขับรถไปที่ดังกล่าว และก็ขับรถเข้ากรุงเทพไม่เป็น จึงรู้ว่าถูกสวมทะเบียนเป็นแน่แท้ ตนกลัวว่ารถคันดังกล่าวจะไปก่อเหตุหรือทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย


นาย สุชน และ นาง ชนิภา จึงได้นำหลักฐานและใบสั่งไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน กับ ร.ต.อ.ขวัญชัย พันละบาล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี ไว้เป็นหลักฐาน


ทางด้าน นาง ชนิภา วงษ์ภักดี เล่าว่า เหตุเกิดวันที่ 24 ส.ค. 63 ตนเองได้เปิดตู้จดหมาย มีจดหมายอยู่ในตู้จำนวน 4 ฉบับ พอเปิดดูพบว่าเป็นจดหมายของพนักงานจราจรทั้งหมด เหมือนโดนใบสั่ง 4 ใบซ้อน พอตนเองดูแล้ว เห็นเป็นรถที่ตนใช้อยู่ ยี่ห้อ มาสด้า3 สีเทา ทะเบียน 3กธ4473 กรุงเทพมหานคร ตนคิดว่าต้องโดนสามีว่าแน่ๆเลย ขับรถยังไงให้โดนใบสั่งทีเดียว 4 ใบ พอแกะจดหมายดูก็ต้องตกใจซ้อนกว่าเดิม


เพราะว่าไม่ใช่รถของตนเอง แต่เป็นรถรุ่น,ทะเบียน,สี เดียวกันกับของเรา แต่ที่รู้ว่าไมใช่รถของตน เพราะว่ารถคันนี้ไปวิ่งอยู่ที่ ถนนมอเตอร์เวย์ สาย 7 กมที่ 2 ซึ่งปัจจุบันรถของตนวิ่งแค่ในพื้นที่จ.สระบุรี เท่านั้น เพราะขับเข้ากรุงเทพไม่เป็น ซึ่งคาดว่าไม่ใช่รถของตนแน่ และอีกอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ ป้ายทะเบียน จะมีลักษณะที่คล้ายกัน แต่ไม่เหมือนกัน เพราะว่าของตนจะมีตัวหนังสือสีฟ้า เขียนว่า มาสด้า สกาย แอคทีฟ ด้วย แต่ของคันที่คาดว่าน่าจะสวมทะเบียนกับของตน ไม่มีลักษณะอย่างนั้น แล้วตรงท้ายของรถมันก็แตกต่างกัน


เพราะว่าของเขามีปุ่มจุดถอยหลัง แต่ของตนไม่มีปุ่มจุดถอยหลัง ตนก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นการ สวมทะเบียนเกิดขึ้นแน่ๆ ก็เลยอยากจะขอเตือนภัยสำหรับผู้ที่ใช้รถว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ควรจะรีบไป แจ้งที่สถานีตำรวจ เพื่อให้เขารู้ว่า น่าจะมีรถที่คล้ายคลึงกับเรา เพื่อเขาไปเกิดเหตุขับชนคนหรืออะไร จะรีบไปแจ้งความให้เร็วที่สุด ใบสั่ง 4 ใบนี้ เกิดเหตุวันที่ 11ก.ค., 25 ก.ค., 1 ส.ค.และ 9 ส.ค. ต่อเนื่องกันในสถานที่เดียวกัน คือ ถนนมอเตอร์เวย์ สาย 7 กมที่ 2 รถคันที่โดนใบสั่งส่วนมากจะเอาออกมาใช้งานในวันเสา-อาทิตย์ สังเกตตามใบสั่งที่โดนจับ


ตนเองอยากแจ้งผ่านทางสื่อไปยังสถานีตำรวจที่ออกใบสั่ง ให้ช่วยยกเลิกใบสั่งหรืออะไรก็ได้ เพราะว่าตนไม่ได้เป็นผู้ดำเนินคดี เพราะจากการสันนิษฐาน คาดว่า ผู้ที่สวมทะเบียนของตน น่าจะมีที่พักอาศัยอยู่แถวถนนมอเตอร์เวย์ สาย 7 กมที่ 2 เพราะโดนที่เดียวกันทั้งหมด 4 ใบ เพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตามสืบก็น่าจะดูจากตรงนี้ได้ ว่ารถต้องตะเวนอยู่แถวๆนี้และเขาก็ใช้รถในวันเสา-ทิตด้วย
มีสัมภาษณ์ นาง ชนิภา วงษ์ภักดี (เจ้าหน้าที่รพ.สระบุรี)
สมยศ พิมมะศร