สระบุรี – ชายวัย 42 ปี เมา ไม่มีงานทำประชดชีวิต ใช้ไฟแช็คเผา โทส(ลังพลาสติก)ใส่สิ้นค้าที่ตั้งอยู่ข้างร้านสะดวกซื้อ
วันที่ 17. ส.ค.63 ร.ต.อ.สุทัศน์ สุขเลิศ พนักงานสอบสวน สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี ได้รับแจ้ง กลางดึกเมื่อคืนนี้ ว่า มีชายสติไม่ดีหรือไม่ก็เมา มาเผาโค้ชใส่สิ้นค้าที่ตั้งอยู่ข้างร้านสะดวกซื้อ จึงได้นำกำลังไปตรวจที่เกิดเหตุ อยู่ติดกับ ถ.มิตรภาพ หมู่ที่ 6 ต.ตาลเดี่ยว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี


พบ นาย สาคร โฉมสุนทร อายุ 42 ปี อยู่ในอาการลักษณะมึนเมา พูดจาไม่รู้เรื่อง ในที่เกิดเหตุเพลิงสงบลงแล้ว จึงได้นำตัวมาที่ สภ.แก่งคอย เพื่อมาสงบสติอารมณ์ เช้าวันนี้ พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ แสนวงศ์สิริ ผกก.สภ.แก่งคอย พร้อมด้วย ร.ต.อ.สุทัศน์ สุขเลิศ พนักงานสอบสวน ได้นำตัว นาย สาคร โฉมสุนทร ซึ่งได้สร่างเมาแล้ว ได้มาทำการสอบสวนเบื้องต้น รับสารภาพว่า ตนเองเป็นคน จ.บุรีรัมย์ มาอยู่ จ.สระบุรี ได้ประมาณ 2-3 เดือนแล้ว มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ทำไปเรื่อยๆแล้วแต่ใครจะจ้าง


แต่ตอนนี้ตกงาน ตนหางานมา 2 วันแล้ว ก็ไม่ได้ ตนอดข้าวมาจะ 2 วันแล้ว หางานที่ไหนๆก็ไม่ได้ ไปที่ไหนก็โดนด่าโดนไล่ ตนเลยเครียด ตนไม่ได้เมามากมาย กิน ไปแค่ 1 กั๊ก ส่วนเรื่องยาเสพติดตนไม่เคยยุ่งเกี่ยว เลยคิดไม่ออกว่าพรุ่งนี้จะทำงานอะไร และจะเอาอะไร กิน ตนเลยวูบ ตอนนี้ตนเองนอนแถวหน้าร้านสะดวกซื้อที่ตนเองก่อเหตุเผาของข้างร้าน สาเหตุที่เผา เพราะเครียดจากการตกงาน ไปสมัครที่ไหนก็ไม่ได้ โดนไล่โดนด่า ทำอะไรก็ไม่ถูก ไม่ถูกสักที เลยลองเผาดูซิ ว่าจะผิดเยอะมั้ย ผู้สื่อข่าวจึงได้ถามว่า แล้วผิดไหม นายสาคร ตอบว่า รู้ว่าผิด ผิดก็ต้องรับผิดสิครับ
ร.ต.อ.สุทัศน์ สุขเลิศ พนักงานสอบสวน จึงได้นำตัวไปสอบปากคำถ้าเสร็จแล้ว จะได้นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ในข้อหาวางเพลิงทำให้เสียทรัพย์ และจะส่งฟ้องศาลตามกฎหมายต่อไป


จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังร้านสะดวกซื้อที่เกิดเหตุ พบ โทส (ลังพลาสติก)ใส่สิ้นค้าตั้งเป็นชั้นๆ ประมาณ 38 ใบ และ พาเลทไม้สำหรับไว้ลองสินค้า 3 อันครึ่ง มีร่องรอยไฟไหม้เสียหายทั้งหมด
ได้สอบถาม พนักงานร้านสะดวกซื้อ เล่าให้ฟังว่า ผู้ก่อเหตุ เดินเข้ามาในร้านบอกว่าไม่มีเงินและตกงาน อยากติดคุก ผู้ก่อเหตุไม่ได้มีการข่มขู่แต่อย่างใด และเดินออกมานอกร้าน น่าจะไปทำการเผาเลย และไม่มีใครเห็น จนมีประชาชนเห็นเหตุการณ์จึงได้เดินเข้ามาบอกพนักงานภายในร้าน พนักงานก็เลยรีบโทรแจ้งตำรวจ และได้ช่วยกันตักน้ำมาดับ ดีว่าขณะไฟไหม้ ไฟไม่ลุกโชน เนื่องจากว่าโทสที่ไหม้เป็นพลาสติก การไหม้จึงละลายเป็นของเหลว มีแต่ควันขึ้น


ทางด้าน นาย มารุจ น้ำดอกไม้ อายุ 41 ปี เป็นพนักงานโมบายของภาคกลางคอยดูแลโซนสระบุรีทั้งหมด ได้มาตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบ มีโค้ช ที่สำหรับใส่สินค้าจากบริษัทนำมาส่งตามสาขา ถูกไฟไหม้เสียหาย 38 ใบ และ พาเลทไม้สำหรับวางสินค้า 3 อันครึ่ง ความเสียหายคาดว่าไม่ต่ำกว่าหลักหมื่นขึ้นไป เพราะว่าของพวกนี้เป็นของบริษัท ไม่มีขายตามตลาดทั่วๆไป

สมยศ พิมมะศร