สรุป ชายคลุ้มคลั่ง-เสพยาหลอน ขับสาดกระสุนปืนไปทั่ว จาก สระบุรี ถึง ปทุมธานี และกลับมาสระบุรีใหม่

เมื่อค่ำวันที่ 24 มิถุนายน 2563 ร.ต.อ.สถิตย์พงษ์ ศรีอ่อน รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองแคได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายใช้อาวุธปืนไล่ยิงเจ้าหน้าที่ประจำสถานีเครื่องส่งวิทุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (ระบบเอเอ็ม) ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.4 ต.หนองโรงอ.หนองแค จ.สระบุรี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยชื่อนายถาวร สุขพูล เป็นเจ้าหน้าที่ช่างไฟฟ้าขณะเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่




ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อนายสมภพ แพรสีเขียว อายุ 46 ปี เป็นชาว ต.หนองโรง อ.หนองแค หลังใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม.ไล่ยิง นายถาวร ฯ ได้ลักรถยนต์ยี่ห้ออีชูซุสีแดงทะเบียนน- 3967 นครนายก ของเจ้าหน้าที่ซึ่งจอดอยู่โดยเสียบกุญแจคาไว้ จึงสบโอกาสขับหลบหนี ซึ่งขณะที่นายสมภพ กำลังจะขับรถออกจากสถานีเครื่องส่งวิทยุฯ ได้ถูกนายณัฐชาติ หนองน้ำใส รองหัวหน้าจุดอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจุดหนองแคที่ได้รับแจ้งเหตุ ขับรถเข้าขวางไว้ ทำให้นายสมภพ ขับรถ ออกไม่ได้ จึงเปิดประตูรถลงเดินเท้าแล้วชักอาวุธปืน กระบอกที่ใช้ก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าที่ริมถนนอีก 3-4 นัดก่อนเดินหลบหนีเข้าป่าไปทางด้านหลังที่ทำการ อบต.หนองโรง



โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสาสมัคร(ฝ่ายปกครอง) อ.หนองแค ไล่ติดตามคุมเชิงไปห่างๆ เพราะนายสมภพ อยู่ในอาการคลุ้มคลั่งอย่างหนักโดยมีอาวุธปืนอยู่ในมือ พร้อมกระสุนปืนอีกจำนวนมากอยู่ในตัว พร้อมกันนั้นได้วิทยุรายงาน ผู้บังคับบัญชาให้นำกำลังมาสนับสนุน เพราะมีทีท่าว่า คนร้ายไม่ยอมให้จับกุมแต่โดยดีแน่ และระหว่างหลบหนีการจับกุมนายสมภพ ยังได้เข้าไปใช้ปืนยิงในวัดคลองห้า ม.9 ต.หนองโรง และ เดินลัดเลาะป่า เข้าไปยังปืนในวัดเจริญศรัทธา ในเขตพื้นที่ ม.5 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี แล้วย้อนกลับไปที่บ้านตนเอง ที่อยู่เยื้องๆ วัดเจริญศรัทธา


ต่อมา พ.ต.อ.ศุภากร จันทราบุตร รอง ผบก.ภ.สระบุรี นำหน่วยปฏิบัติการพิเศษ พร้อมอาวุธปืนครบมือกว่า 10 นายและ พ.ต.อ.จักรกฤช โฉสูงเนิน ผกก.สภ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี นำกำลังมาสมทบ เพื่อจับกุมคนร้ายรายนี้ให้ได้ แต่ นายสมภพไหวตัวหลบออกจากบ้านมาซ่อนตัวอยู่ใต้สะพานข้ามคลองชลประทาน ใกล้ประตูระบายน้ำที่ 11 เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงได้กระจายกำลังเข้าปิดล้อมแต่ด้วยเป็นเวลาค่ำมืด มองไม่เห็นใบหน้ากัน จึงไม่ทราบว่าใครเป็นใครในขณะนั้น มีทั้งตำรวจในและนอกเครื่องแบบ อาสาสมัครมูลนิธิฯ เต็มไปหมด ในช่วงนั้นเอง นายสมภพ ได้ฉวยโอกาสออกจากที่ซ่อนเดินปะปน กับผู้คนในบริเวณนั้น เพื่อหวังจะหลบหนีข้ามฝั่งเข้าป่าไปหลบในส่วนกล้วยไม้ของชาวบ้าน


เมื่อเจ้าหน้าที่ใช้ไฟฉายส่องหน้าถามว่า เป็นใคร ทำให้นายสมภพ ตะโกนด่าสวนกลับมา ว่าส่องหน้าทำไม แล้ววิ่งหลุบหนีไปตามถนนคันคลองชลประทานใกล้ประตูระบายน้ำพร้อมสาดกระสุนปืน 3-4 นัดสกัดการติดตามข้องเจ้าหน้าที่ ทำเอาเจ้าหน้าที่ พร้อมประชาชนที่มามุงดูวิ่งหลบหนีกระสุนปืนกันจ้าละหวั่น ปล่อยให้ นายสมภพ หลบหนีเข้าป่าหายไป ท่ามกลางเสียงสุนัขไล่เห่ากรรโชกเป็นระยะๆ เจ้าหน้าที่จึงไม่กล้าผลีผลามคงได้แต่คุมเชิงไว้เท่านั้นส่วนอาวุธปืนรับว่า เป็นของตนเอง หลังก่อเหตุทิ้งไปแล้ว และเคยต้องคดี ทำร้ายร่างกาย ชิงทรัพย์ และเสพยา ติดคุกนาน 6 ปี ปัจจุบันช่วย พ่อ-แม่ ทำสวน

รอง ผบช.ภ.1 จึงสั่งการให้ควบคุมตัวส่ง สภ.หนองแค ดำนินคดี เบื้องต้นแจ้งข้อหาว่า ยิงผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ลักทรัพย์ ยิงปืนในที่สาธารณะ พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร แต่ต้องรอผลการสอบสวน เจ้าของอาวุธปืนก่อนว่า เป็นเหตุชิงทรัพย์อาวุธปืนหรือไม่



พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า เหตุที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็น ( 24 มิ.ย.63) โดยคนร้าย นายสมภพ แพรสีเขียว ได้เข้าไปลักอาวุธปืนขนาด 11 ม.ม.พร้อมกระสุนอีกราว 30 นัด ของข้าราชการครูท่านหนึ่งในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในระแวกนี้ แล้วนำไปก่อเหตุไล่ยิงเจ้าหน้าที่ช่างไฟฟ้าในสถานีวิทยุฯ เดชะบุญหลบหนีได้ทันบาดเจ็บนิดหน่อย แล้วลักขโมยรถกะบะของเจ้าหน้าที่จะขับออกไป แต่ไปเจอเจ้าหน้าที่ กู้ภัยขัดขวางไว้แล้วรีบแจ้งตำรวจมาระงับเหตุ แต่นายสมภพ มีอาการทางประสาทเนื่องจากเสพยาเสพติด เคยต้องโทษมาแล้ว 2 ครั้ง ควบคุมตัวเองไม่ได้เคยเผาสวนตัวเองมาแล้ว

