เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ผู้ใช้เฟซบุ๊กเฟซบุ๊ก “Tawatchai Klinsukon”หรือ นพ.ธวัชชัย กลิ่นสุคนธ์ ศัลยแพทย์หลอดเลือดและปลูกถ่ายไต เชี่ยวชาญการผ่าตัดทำเส้นฟอกไตและการผ่าตัดปลูกถ่ายไต ได้เผยเรื่องราวว่า..

เดินทางอย่างยากลำบาก นั่งรถตู้ฝ่าสายฝน ไป-กลับ กทม-สุรินทร์ นับสิบชั่วโมง เพื่อการผ่าตัดรับไตบริจาค เพียง 55 นาทีนี้เอง
ผ่าตัดบ่อยจนชำนาญ สามารถผ่าตัดรับไตบริจาค (Kidney procurement) เสร็จโดยใช้หมอเพียงคนเดียว (ที่เหลือเป็นพยาบาลช่วยผ่าตัด) ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงแล้ว
การผ่าตัดอวัยวะเพื่อนำไปปลูกถ่ายต่อ (Kidney procurement) นั้น ควรใช้เวลาน้อยที่สุดให้มีช่วงเวลาที่อวัยวะขาดเลือด (ischemic time) สั้นที่สุด เพื่อผลการปลูกถ่ายที่ดี

ทั้งนี้นอกจากความเร็วแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่าคือ ความแม่นยำ ทำผ่าตัดโดยไม่ให้อวัยวะนั้นบาดเจ็บหรือฉีกขาด จึงต้องฝึกฝนให้ชำนาญทั้งความเร็วและความแม่นยำ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ของการผ่าตัดปลูกถ่ายไต
ซึ่งปัจจุบัน การผ่าตัดรับไตบริจาคทั้งหมด รวมถึงการผ่าตัดปลูกถ่ายไตในประเทศไทย จะได้รับการจัดสรรจาก สภากาชาดไทย ทั้งหมดเพื่อความยุติธรรมของผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่รอคอยอวัยวะอยู่ทั้งใน รพ.รัฐฯ และ เอกชน
โดยทางกาชาดจะจัดสรรอวัยวะ (ไต) ที่เหมาะสม และมีผลการตรวจเนื้อเยื่อที่เข้ากันได้กับผู้ป่วย แต่ละราย โดยทีมส่วนกลางจะมีทั้งหมด 16 รพ. ทั้งภาครัฐฯ และเอกชน ที่จะออกเดินทางไปผ่าตัดรับไตบริจาคในนามของ สภากาชาด โดยจัดลำดับตามคิวหมุนเวียนกันไป แต่หาก รพ.ไหน ไม่พร้อมออกด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ ก็จะเลื่อนคิวถัด ๆ ไปออกเดินทางแทน เพื่อที่จะได้ไม่เสียโอกาสในการได้มาซึ่งอวัยวะ (ไต) และ ไม่เสียความตั้งใจอันแน่วแน่ของผู้บริจาคอวัยวะ ที่ได้ตั้งใจมอบอวัยวะ (หัวใจ ไต ตับ ดวงตา) ให้แก่ผู้อื่นในวาระสุดท้ายแห่งชีวิต นับเป็นการสร้างบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่ที่หาสิ่งใดเปรียบไม่ได้
ผมในฐานะศัลยแพทย์ปลูกถ่ายไต จึงตั้งใจที่จะออกเดินทางไปผ่าตัดรับไตบริจาคทุกครั้งที่ทำได้ไม่ว่าหนทาง การเดินทางจะยากลำบากเพียงใดหากสามารถออกเดินทางได้ ก็จะไม่ปฏิเสธเลย เพราะรู้ดีว่ามีผู้ป่วยไตวายเรื้อรังมากมายที่รอคอย
โอกาสที่จะได้รับการปลูกถ่ายไตนี้อยู่