

วันที่ 16 มิย. 63 จากกรณีที่ หญิงชาวสระบุรี รายหนึ่ง นำเรื่องราว และภาพบ้าน ที่เก่า ซอมซ่อ ผุพัง ลงเฟชบุ๊ก ส่วนตัว เพื่อขอความช่วยเหลือ ให้กับ ยายวัย 67 ปี (นางปทุม คุ้มภัย)และหลานสาววัย 14 ปี จนมีผู้ที่เข้ามา บริจาคเงิน พร้อมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี ได้ยื่นมือเข้าช่วยพร้อมทั้งอาสาจะปลูกบ้านหลังใหม่ให้กับ ยายวัย 67 ปีและหลานสาว ได้พักอาศัยแทนหลังเก่า โดยต้องรื้อถอนบ้านที่มีสภาพ ผุพัง อีกทั้งหน่วยงาน เกรงจะไม่ปลอดภัย จึงให้ออกไปขออาศัย อยู่กับเพื่อนบ้าน
เมื่อ 2 อาทิตย์ ที่ผ่านมา นางปทุม พร้อมหลานสาวได้ ไปดูสภาพพื้นที่บ้านหลังเก่าอีกครั้ง ด้วย ความหวัง พร้อมทั้ง พูดตัดพ้อว่า หลังจากหน่วยงาน ได้ รื้อถอนบ้านหลังเก่าไปแล้ว ตนเองและหลานต้องไปพักอาศัยอยู่ ในห้องแคบ ๆ ของเพื่อนบ้านที่อยู่ไม่ไกล แต่เหมือนว่า ตนเองและหลาน กำลังเป็นทุกข์ กับสภาพความเป็นอยู่ ประกอบกับสภาพร่างกาย กับห้องเล็กๆ โดยไม่มีข้าวของเครื่องใช้ หรือสิ่งอำนวยความสะดวก แม้แต่การใช้ชีวิตประจำวัน อย่างเข้าส้วมหรืออาบน้ำก็เป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจาก ตนเองและหลานสาว สำนึกตลอดเวลาว่าไม่ใช่บ้าน ของตนเอง ไม่เหมือนกับบ้านหลังเก่าที่ถูกรื้อถอนไปแล้ว ยายเปิดเผยว่า ตนเองผูกพันกับบ้านหลังเก่า เนื่องจากอาศัยอยู่มานาน กว่า 10 ปี แล้ว




อีกทั้ง ตนเองไม่เคยมีบัตรประชาชนมาตั้งแต่เกิด จนถึงปัจจุบันนี้ เมื่อถูกรื้อถอนบ้านหลังเก่าไปแล้ว ทำให้ กังวลว่า หน่วยงานในพื้นที่ จะไม่ดำเนินการ สร้างบ้านให้ใหม่อีก ทั้งๆ ผ่านมาแล้วถึง 2อาทิตย์ ยังไม่มีความคืบหน้า จึงขอให้เพื่อนบ้าน นำเรื่องของตนไปลงเฟชบุ๊ก ในกรณีดังกล่าว เพื่อให้หน่วยงานเร่งเข้ามาดำเนินการสร้างบ้านให้ ตนเองโดยเร็ว ส่วนหลานสาวยาย อายุ 14 ปี เปิดเผยว่า ตนเองไม่ได้เรียนหนังสือ ล่าสุดจบชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 เนื่องจาก ยายไม่มีเงินทุนส่ง เพื่อศึกษาต่อทำให้ขาดโอกาส ส่วนบ้านที่ถูกรื้อถอนออกไป หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ไม่ได้เข้ามาอีกเลยทำให้ยายกังวลใจ นับวันนับเวลารอคอย ไม่รู้เมื่อไร หน่วยงานจะลงมือปลูกบ้านใหม่ ให้กับตนเองและยาย เพื่อจะได้เข้าอยู่อาศัยต่อไป ส่วน หญิง อายุ 38 ปี(นามสมมุติ น้องน้ำ) ที่นำเรื่อง ยาย 67 ปี และหลานสาว เผยว่าตนเอง ทราบเรื่องยาย มาจากเพื่อนอีกคน โดยตนเองรู้สึกสงสาร เนื่องจากต้องอาศัยอยู่ในบ้าน ที่ผุพัง อีกทั้งขาดรายได้ จึงพยายามช่วยเหลือ



ต่อมาทราบว่าบ้านยายถูกรื้อทิ้งไป และหน่วยงานยังไม่ดำเนินการก่อสร้างให้ใหม่ทำให้ตนเองไม่สบายใจ จึงนำเรื่องยายและหลานสาวไปลงสื่อโซเชียลเพื่อ ขอความช่วยเหลือ จากสมาชิกในเฟชบุ๊ก ส่วน หน่วยงานที่รื้อบ้านเก่ายายและหลานสาว ตนเองมองว่า ควรจะมีการติดต่อยาย เพื่อแจ้งให้ทราบว่า ขั้นตอนการปลูกบ้าน ติดขัด หรือไม่หรือ มีข้อขัดข้อง อะไร ถึง ทิ้งเวลานาน หลังผู้สื่อข่าว ทราบเรื่องได้ประสานไปยังหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึง องค์การบริหารส่วนตำบลหน้าพระลาน และผู้ใหญ่บ้าน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง จึงทราบข้อมูล จาก นาง สาว ธิศา สินธุพันธุ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ผู้ที่เกี่ยวข้อง พื้นที่บ้านยายและหลานสาวหลังเก่า ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ระหว่างกำลังจะปลูกบ้านใหม่ให้กับยายหลาน เผยว่า สาเหตุที่ทำให้ ขั้นตอนการปลูกบ้านใหม่ ให้ยายหลาน ล่าช้า เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวจากการตรวจสอบ พบว่า เป็นเขตนิคมสร้างตนเอง อำเภอพระพุทธบาท ซึ่ง ขณะที่ยายหลานอาศัยอยู่บ้านหลังเก่า ยาวนานกว่า10 ปี
โดยทางนิคมสร้างตนเองไม่ได้อนุญาต หรือไม่ได้รับอนุญาต จากเจ้าของพื้นที่ คือ นิคมสร้างตนเองพระพุทธบาท มาตั้งแต่แรก ประกอบกับ ยายปทุม ไม่มีบัตรประชาชนมาตั้งแต่เกิด ทำให้ขั้นตอนการ ตรวจสอบ เพื่อให้ญาติรับรอง นิคมสร้างตนเองเพื่อขอเช่าพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งนอนใจ ช่วงนี้ได้ดำเนินการ ขอแบบแปลนการก่อสร้างบ้าน ไว้แล้ว อีกทั้ง นำรถไถเข้าปรับพื้นที่ และนำหินมาถมไว้แล้ว เพื่อรอ เอกสาร ดำเนินการณ์ปลูกบ้าน ให้กับยายและหลานให้ถูกต้อง ตามระเบียบของทางราชการ ซึ่งก็สอดคล้องกับ นายกองค์การบริหาร ตำบลหน้าพระลาน นายธนพิพัฒน์ วิธูชุลีโชติ เผยว่า จากกรณี ที่ ยาย 67 ปี และหลานสาว ตนเองไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้รับคำสั่ง จาก นาย ศราวุธ สุวรรณจูฑะ นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ให้เร่งดำเนินการ ประสาน กับนิคมสร้างตนเอง เนื่องจากพื้นที่ บ้าน ยาย 67 ปี อยู่ในเขตพื้นที่ ความรับผิดชอบ จากหน่วยงาน ดังกล่าว
โดยจะดำเนินการรับช่วงต่อ เมื่อ ยาย 67 ปี ได้บัตรประชาชน เสร็จขั้นตอนแรกแล้ว จากนั้น ก็จะเริ่มดำเนินการก่อสร้าง บ้านได้ทันที เนื่องจากแบบแปลนบ้าน ที่จะปลูกสร้าง ทางองค์การบริหารส่วนตำบลหน้าพระลานได้ดำเนินการ ไว้รอแล้ว พร้อมทั้งช่าง ที่จะดำเนินการรับเหมา ก่อสร้าง อีกทั้งผู้ใหญ่ใจดีอย่างเช่นผู้ประกอบการ ในพื้นที่ จะเข้ามาช่วยเหลือด้านสิ่งของวัสดุอุปกรณ์ ที่จำเป็นและด้านอุปโภค บริโภค น้ำไฟ และ ท่อระบายน้ำ
เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่กีดขวางทางน้ำ เพื่อให้ บ้านที่จะปลูกสร้างให้กับ ยายและหลาน ถูกต้องตามระเบียบขั้นตอนของทางราชการ และอาศัยอยู่ในบ้านใหม่อย่างมีความสุขตามฐานะที่ควรจะพึงมี พึงได้ ส่วน หลานสาว อายุ14 ปี ทางองค์การบริหารส่วนตำบลหน้าพระลาน ได้ประสาน กับผู้ประกอบการ ให้ หลานสาวยาย ได้มีงานทำ เพื่อจะทำให้ มีรายได้ที่มั่งคง จุลเจือ ครอบครัว ยายหลานอย่างยั่งยืนและ ถาวร ต่อไป ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอให้ยาย และหลานสาวรอคอย อย่าง ใจเย็นๆ ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบ จะได้เร่งดำเนินการโดยด่วนต่อไปแล้ว.




Cr.ดาริน พิมมะศร