เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 63 ผู้ใช้เฟสบุ๊กผมกัน ผมปืน หงษ์ไกรเลิศ ออกมาโพสต์ถึงเรื่องราวพี่ชายของตนที่นำอวัยวะเพศไปถูเบาะรถมอเตอร์ไซค์จนสำเร็จความใคร่ตนเอง เหตุที่เกิดขึ้นตรงข้าม ห้างสรรพสินค้าทวีกิจคอมเพล็กซ์ และผู้ใช้เฟสบุ๊กคือคนในครอบครัว (เปิ้ลสติไม่ดี) ขอมาอธิบายกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกโซเชียล

ที่วงนั้นคือพี่ชายแท้ๆของผมเอง ซึ่งเป็นผู้ป่วยพิการทางสติปัญญา ที่ตอนนี้กำลังเป็นข่าวในหลายๆช่อง เรื่องการควบคุมตัวเองและการควบคุมอารมณ์ทางเพศ ที่มีอะไรกับรถจักรยานยนต์จนสำเร็จความใคร่ดังคลิปที่เผยแพร่เป็นข่าว ซึ่งทางครอบครัวของผมรู้เรื่องนี้ก็ไม่ได้ปล่อยปะละเลย และทีผ่านมาทางครอบครัวให้กินยาตามที่แพทย์สั่งเป็นประจำทุกวันตลอดระยะเวลา 30ปีจนถึงปัจจุบัน ซึ่งแต่ก่อนนี้แพทย์ได้แจ้งว่าพี่ชายผมนั้นยุในอาการระดับที่ 2 ปัจจุบันผมคาดเดาว่าน่าจะเพิ่มขึ้น อาจยุในระดับที่ 3 ตามข้อมูลในรูปที่สองของโพสนี้ เนื่องจากเป็นมาสักระยะ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทางโรงพยาบาลได้เข้ามาเพิ่มตัวยาที่ควบคุมอาการที่รุนแรงขึ้นในปัจจุบัน เป็นยาเกี่ยวกับการระงับประสาท อารมณ์ที่อาจจะแปรปวรในการใช้ชีวิตประจำวันของเขา

ต้นเหตุที่ทำให้พี่ชายผมเป็นเช่นนี้พิการทางสติปัญญานั้น
ย้อนไปในวัยเด็กพี่ชายผม ตอน อายุ 3
ขวบ ได้ปีนราวตากผ้าสูงนะดับ 1.6 เมตร
แล้วผลัดตกราวตากผ้า ซึ่งศรีษะได้ลงพื้นกระแทกรุนแรง
แต่ทางบ้านก้นำไปรักษาตามอาการของคนในสมัยนั่น แต่ผมกับน้องก็ยังไม่เกิดเลยด้วยซ้ำ
ปัจจุบัน พี่ชายผมอายุ 33 ปีแล้วครับ
ทุกอย่างความคิดความอ่านเหมือนถูกสต็อปอยู่ในวัยเด็กเขา แต่สมรรถภาพทางเพศ
และอารมณ์ผมก็คาดเดาว่าน่าจะเป็นไปตามวัยของเขา ในคนอายุเท่านี้
ที่เจริญเติบโตทางร่างกาย

ไม่ใช่ผมไม่กลุ้มใจในเรื่องที่เกิดขึ้นกับทางครอบครัวผม
ใจอยากจะล่ามโซ่เลยด้วยซ้ำ เมื่อเห็นคำคอมเม้นทางโซเชียลว่าร้ายต่อว่ารุนแรง กับทางครอบครัวผม และเห็นเป็นเรื่องตลก ซึ่งไม่ได้รู้ข้อมูลอะไรเลย เคยนั่งคุยปรึกษากับยายจริงจังแล้ว แต่ยายเขาก็สงสารพี่ชาย ถ้าจะให้ไปอยู่ที่อื่น หรือสถานสงเคราะห์ที่เกี่ยวข้อง ถึงขั้นพูดออกมาว่า ทุกวันนี้ก้คิดถ้าเป็นไปได้ ให้พี่ชายผมเสียก่อนตัวเขาสะอีก เขาเป็นห่วงจะอยู่ยังไง เขาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันประจำทุกวัน
ดูแลกันมาตั้งแต่เล็กจนโต